RSS

นวดลำคอ

* ประโยชน์
กระชับผิวบริเวณลำคอให้เรียบตึง
ลดการเกิดริ้วรอยบริเวณลำคอ

วิธีทำ
เอียงใบหน้าไปทางซ้าย ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางข้างขวาวางแตะที่คอช่วงใต้ใบหูขวา
กดปลายนิ้วแรงๆ พร้อมนวดจนเป็นวงกลมเล็กๆ ค่อยๆวนลงมาจนถึงขอบไหปลาร้าแล้วนวดวนกลับขึ้นไปที่จุดเริ่ม นับเป็น 1 ชุด
นวดต่อเนื่องขึ้นลง อีก 5 ชุด
จากนั้นเอียงใบหน้าไปทางขวงจนตึง แล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางข้างซ้ายนวดคอข้างซ้ายบ้าง

บริหารคาง ท่าที่2

* ประโยชน์
ลดริ้วรอยบริเวณคาง
กระชับคาง

วิธีทำ
ยืนตัวตรงหน้ากระจก หน้าตรงไม่ก้มหน้า
กระดกปลายลิ้วขึ้นแตะเพดานปาก
แล้วกดปลายลิ้นแนบกันเพดานปากอย่างแรงๆ
เกร็งปลายนิ้วค้างไว้นับ 1 - 15 แล้วพัก
กระดกปลายลิ้นขึ้นแนบเพดานปากแล้วกดแรงๆ อีกครั้ง
นับ 1 – 15 ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

บริหารคาง ท่าที่1

* ประโยชน์
กระชับคางให้ตึงสวย
ไม่หย่อนยานเป็นคางหลายชั้น

วิธีทำ
ยืนตัวตรงหน้ากระจกเงา ลำคอตั้งตรง
หน้าตรง ไม่ก้มหน้า
แลบลิ้นออกมาให้ยาวที่สุดเท่าที่พอจะเหยียดลิ้นออกมาได้แลบลิ้นให้ยาวๆ จนรู้สึกตึง
ค้างไว้นับ 1 – 15 ดึงลิ้นกลับแล้วแลบออกมาอีกครั้ง ค้างไว้นับ 1 – 15 ทำอย่างนี้ 5 ครั้ง

บริหารแก้มส่วนล่างและคาง

* ประโยชน์
กระชับแก้มส่วนล่างบริเวณขากรรไกร
ให้ตึงไม่หย่อนยาน
กระชับคางและผิวส่วนต้นลำคอ
ให้ตึงกระชับไร้ริ้วรอย

วิธีทำ
ฉีกริมฝีปากกว้าง ฟันล่างและบนแตะกัน
เกร็งบริเวณริมฝีปากและบริเวณกรามช่วงล่างให้ตึง
เกร็งส่วนลำคอตอนต้นด้วย
ค้างไว้นับ 1 – 20 แล้วพัก
ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

บริหารริมฝีปากและคาง

* ประโยชน์
ริมฝีปากกระชับได้รูป
ลดริ้วรอยมุมปาก
รูปคางสวยกระชับ

วิธีทำ
ทำหน้าตรง ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะเบาๆ ที่มุมปาก
ออกแรงกดและดึงมุมริมฝีปากกลางด้านล่าง
ไม่เกร็งปาก ไม่เกร็งขากรรไกร
ดึงมุมปากลงจนตึง ค้างไว้นับ 1 – 15 แล้วพัก
ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

กระชับแก้มส่วนล่างและคาง

* ประโยชน์
กระชับเรียวแก้มให้ตึง
ลดและชะลอมิให้แก้มส่วนล่างห้อยย้อย
กระชับคางให้ตึงไม่หย่อนยาน

วิธีทำ
ทำหน้าตรง ยื่นริมฝีปากล่างออกไปด้านหน้า
ไม่เกร็งริมฝีปากบน ไม่แสยะหรือแบะปาก
ยื่นแต่ส่วนริมฝีปากล่างออกไปจนตึง
ค้างไว้นับ 1 -15 แล้วพัก ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

บริหารริมฝีปาก ท่าที่3

* ประโยชน์
กระชับริมฝีปากให้เรียบตึงไม่ห้อยลง
ลดการเกิดริ้วรอยที่ผิวรอบๆ ริมฝีปาก

วิธีทำ
แตะฟันบนล่างให้ชิดกัน
เม้มริมฝีปากบนล่างเข้าหากัน
แต่ริมฝีปากจะอยู่บนฟัน เม้มปากให้แน่น
เกร็งริมฝีปาก เหยียดมุมปากออกจนตึง
ค้างไว้นับ 1 – 15 แล้วพัก
ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

บริหารริมฝีปาก ท่าที่2

* ประโยชน์
กระชับริมฝีปากให้เรียบตึง
ลดริ้วรอยบริเวณมุมริมฝีปาก

วิธีทำ
เม้มริมฝีปากบนและล่างเข้าหากันให้ชิด
ปิดปากให้แน่นอย่าให้เห็นฟัน
แตะปลายนิ้วชี้ที่มุมริมฝีปากอย่างเบาๆ
แล้วดึงมุมปากออกไปทางด้านข้างจนปากตึง
ค้างไว้นับ 1 – 15 แล้วพัก
ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

บริหารริมฝีปาก ท่าที่1

* ประโยชน์
ลดและชะลอการเกิดริ้วรอยมุมปาก
กระชับริมฝีปากให้เรียบตึงได้รูป

วิธีทำ
ยืนตรงหน้ากระจก ทำหน้าตรง
ทำปากจู๋ ริมฝีปากบนล่างเม้มชดกัน
ห่อริมฝีปากยื่นออกไปข้างหน้าให้มากๆ
เกร็งจมูกด้วย ค้างไว้นับ 1 – 15
ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

บริหารริมฝีปากบน

* ประโยชน์
ลดริ้วรอยเหนือริมฝีปาก
กระชับริมฝีปากบนให้ตึงไม่ห้อยย้อย

วิธีทำ
เม้มริมฝีปากบนล่างเข้าหากันให้แนบชิด
ใช้นิ้วชี้แตะที่ข้างๆ ร่องเหนือริมฝีปาก
ดึงผิวเนื้อบริเวณเหนือริมฝีปากออกไปข้างๆ จนตึง
เกร็งริมฝีปาก ยังคงเม้มปากแน่น
ค้างไว้นับ 1 -15 แล้วพัก
ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

กระชับแก้มด้านใน

* ประโยชน์
บริหารผิวแก้มบริเวณใกล้จมูก
ให้ตึงกระชับ
ลดริ้วรอยที่ผิวแก้มด้านใน

วิธีทำ
ใช้นิ้วชี้แตะแนบริมจมูกไว้
ปลายนิ้วอยู่ใต้หัวตา แนบนิ้วชิดปีกจมูก
ย่นจมูกขึ้นพร้อมกับกดนิ้วเบาๆ เพื่อมิให้เกิดริ้วรอยย่นๆ ขณะทำทาย่นจมูก
ริมฝีปากเม้มชิดกัน
ย่นจมูกขึ้นลง นับ 1 – 20
ทำ 3 ครั้ง

บริหารแก้ม

* ประโยชน์
กระชับผิวหน้าให้เรียบเนียนไร้ริ้วรอย
กระชับกล้ามเนื้อแก้มให้ตึง
ลดความหย่อนยาน

วิธีทำ
ทำหน้าตรง คลี่ริมฝีปากยิ้ม
ริมฝีปากบนและล่างเม้มชิดเข้าหากัน
ใช้นิ้วชี้แตะที่ข้างร่องแก้ม
ปลายนิ้วห่างจากปลายปีกจมูกประมาณ 1 นิ้วเท่าๆ กัน
เหยียดริมฝีปากจนตึง
ใช้ปลายนิ้วกดเบาๆ ดึงผิวบริเวณริมฝีปากออกไปข้างๆ
ค้างไว้นับ 1 - 15 แล้วพัก
ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

ลดรอยตีนกา

* ประโยชน์
ชะลอและลดการเกิดรอยตีนกา
กระชับผิวใต้ดวงตา

วิธีทำ
ทำตาหยี เหมือนอยู่กลางแสงแดดจ้า
ใช้นิ้วชี้วางที่ปลายตา บริเวณขอบตาด้านล่าง
กดนิ้วเพียงเบาๆ ขณะทำตาหยี ค้างไว้นับ 1 – 8
ทำซ้ำอีก 8 ครั้ง

บริหารผิวเปลือกตา

* ประโยชน์
กระชับผิวของเปลือกตาบนให้ตึงไม่ห้อยย้อย
ลดริ้วรอยรอบดวงตา

วิธีทำ
ทำหน้าตรง มองกระจก
ทำตาเบิกกว้าง
ดึงเปลือกตาบนให้สูงขึ้นแต่ไม่ต้องเลิกคิ้วขึ้น
ดวงตายังคงมองตรงๆ ที่กระจก ไม่ต้องกลอกตาขึ้นสูง ให้ดึงแค่เปลือกตาบนขึ้นจนตึง เบิกตาให้กว้างจนมากเท่าที่พอจะทำได้
ค้างไว้นับ 1 – 15 แล้วพัก
ทำอีก 10 ครั้ง

บริหารผิวรอบดวงตา

* ประโยชน์
ลดและชะลอการเกิดรอยตีนกา
กระชับผิวรอบดวงตาให้เรียบตึง

วิธีทำ
ทำหน้าตรง เม้มริมฝีปาก
ยกนิ้วชี้แตะที่ปลายดวงตา
กดนิ้วเบาๆ ให้รู้สึกได้ว่านิ้วกดอยู่ที่บริเวณขอบกระบอกตา
วางนิ้วห่างจากขอบกระบอกตาเล็กน้อย
ปลายนิ้วแตะอยู่ที่ปลายคิ้ว
หลังตาลง นับ 1 – 2 – 3 ลืมตา (ไม่ต้องออกแรงกดนิ้ว)
ทำซ้ำอีก 20 ครั้ง

นวดหน้าเพื่อผิวใสดูอ่อนเยาว์

กระชับผิวบริเวณหน้าผาก ท่าที่1

* ประโยชน์
บริหารผิวและกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก
กระชับผิวและชะลอการเกินริ้วรอย

วิธีทำ
เปิดตากว้าง
เลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นสูงจนเกินรอยย่นที่บริเวณหน้าผาก
วางนิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นแนวนอนที่หน้าผาก
ปลายนิ้วห่างกันเล็กน้อย
ดึงผิวออกไปทางด้านข้าง กดนิ้วเบาๆ
นับ 1 – 10 แล้วพัก
ทำซ้ำอีก 5 ครั้ง
กระชับผิวบริเวณหน้าผาก ท่าที่2

* ประโยชน์
บริหารกล้ามเนื้อหน้าผาก
กระชับผิวบริเวณหน้าผากให้เรียบตึง
ลดและชะลอรอยย่นที่หน้าผาก

วิธีทำ
ทำหน้าตรงๆ เบิกตาให้กว้างๆ เลิกคิ้วขึ้นสูง
ค้างไว้นับ 1 -10 แล้วหลับตาลงเร็วๆ ปิดเปลือกตาแรงๆ กดเปลือกตาลงให้สนิทแน่น แต่อย่าหยีตา
พักแล้วทำซ้ำอีก 5 ครั้ง

กระชับผิวแก้ม

* ประโยชน์
บริหารลิ้น
กระชับผิวแก้มให้เต่งตึงเปล่งปลั่ง

วิธีทำ
ใช้ลิ้นดุนที่กระพุ้งแก้มอย่างแรงๆ
เกร็งแก้มให้ตึงและกระชับเข้าหาปลายลิ้นด้วย
ควรเม้มริมฝีปากปิดสนิท
ค้างไว้นับ 1 -10 แล้วทำอีกข้างบ้างเป็น 1 ชุด
ทำซ้ำ 10 ชุด

สูตรผิวเรียบเนียน

เตรียม
แคนตาลูป 1 จานเล็ก
ไข่ไก่ 1 ฟอง

วิธีทำ
หั่นเอาแต่เนื้อแคนตาลูปเป็นชิ้นเล็กๆ 1 จานรองถ้วยกาแฟส่วนไข่ ให้แยกเอาแต่ไข่แดงมาใช้
ปั่นแคนตาลูปกับไข่แดงให้ละเอียดเนียนเป็นเนื้อครีม
ถ้าไม่มีเครื่องปั่น ใช้ช้อนบดๆ แล้วผสมกับไข่แดง
ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าแต่พอหมาดๆ ทาครีมแคนตาลูปทั่วผิวหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ใช้ปลายนิ้วนวดๆ คลึงๆ ไปด้วย นวด 5 นาที พอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า
สูตรนี้ใช้ได้บ่อยๆ ตามสะดวก เพราะไม่ระคายเคืองต่อผิว แต่จะช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น และมีความชุ่มชื้นในเนื้อผิวมากขึ้น เหมาะกับคนที่ผิวหน้าไม่ค่อยเรียบและค่อนข้างแห้ง

สูตรผิวใสกระจ่างเนียนนุ่ม

เตรียม
มันฝรั่ง 1 หัว
นม 2-3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
ล้างมันฝรั่งให้สะอาด ใช้ส้อมรูดเป็นเส้นๆ (ไม่ต้องปอกเปลือก) เอาเนื้อและเปลือกมันฝรั่งที่ขูดแล้วมาบดๆ อีกนิดหน่อย ใช้ช้อนบดๆ แล้วเทน้ำนมลงผสม (ใช้นมกล่องหรือนมผงของเด็กทารกผสมน้ำอุ่นก็ได้)
ทามันฝรั่งทั่วผิวหน้า เว้นรอบดวงตาและปาก
ระหว่างทาควรใช้ปลายนิ้วนวดๆ คลึงๆ ให้ทั่วๆ ทั้งใบหน้านวดประมาณ 5 นาที แล้วพอกทิ้งไว้ 15 นาที จึงล้าวออกด้วยน้ำอุ่น
สูตรนี้ใช้ได้ทุก 3-4 วัน หรือสัปดาห์ละครั้ง ผิวจะสดใสดูผุดผ่องกระจ่างขึ้น จะมีความนุ่มนวลสัมผัส เหมาะกับคนผิวมันและดูหมองคล้ำ

สูตรผิวหน้าเต่งตึง

เตรียม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
วิธีทำ
ตอกไข่ใส่ถ้วย แยกเอาไข่แดงไปทำอย่างอื่น (ทำอาหาร หรือผสมน้ำมันมะกอกไว้นวดผม)
ใช้แต่ไข่ขาวมาพอกทาผิวหน้า ควรล้างหน้าและเช็ดหน้าให้แห้งเสียก่อน
ทาไข่ขาวให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ทาเลยลงไปที่ผิวต้นคอด้วย
พอกทิ้งไว้ 10 นาที ควรทำหน้านิ่งๆ จนครบ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ (ไม่ต้องใช้สบู่)
สูตรนี้ทำได้ทุกสัปดาห์ จะรู้สึกได้ว่าผิวหน้ากระชับเต่งตึงเด้งดึ๋งดั๋ง สิวเสี้ยนจะหลุดลอกออกหมด เหมาะกับคนที่ผิวไม่กระชับหรือใช้ในช่วงที่ผิวหน้าอิดโรย

สูตรกระชับผิว ลดริ้วรอย

เตรียม
องุ่นสด 10 - 15 ผล

วิธีทำ
ล้างองุ่นให้สะอาด ผ่าครึ่งแคะเมล็ดออกแล้วนำไปปั่นทั้งเปลือก อย่าปั่นให้ละเอียด แค่ปั่นให้เป็นเนื้อเละๆ ก็พอ หรือจะใช้ส้อมตีๆ ยีๆ ให้เนื้อองุ่นแหลกๆ เละๆ ก็ได้
ล้างหน้าแล้วเช็ดหน้าให้แห้ง ทาเนื้อองุ่นให้ทั่วผิวหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ใช้ปลายนิ้วกดๆ คลึงๆ ผิวหน้าด้วย
พอกหน้าทิ้งนาน 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
สูตรนี้ทำได้บ่อยเท่าที่สะดวก องุ่นจะช่วยให้ผิวผ่องขึ้น กระชับขึ้นและสดชื่นยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ และมีริ้วรอย

สูตรหน้านุ่มขาวเหมือนหน้าเด็ก

เตรียม
รำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
ผสมรำข้าวกับน้ำผึ้งให้เข้ากัน ตีๆ ยีๆ ให้กลายเป็นครีมข้นๆ มีเนื้อทรายหน่อยๆ ถ้าข้นเกินไปให้เติมน้ำอุ่นอีก 2 ช้อนโต๊ะ
ล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าหมาดเล็กน้อย ใช้ปลายนิ้วแต้มครีมแล้วทาชโลมให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตา
คอยทำหน้านิ่งๆ เพราะความข้นของครีมจะทำให้หน้าตึงเล็กน้อย
ขณะทาผิวหน้าให้ขัดเบาๆ และนวดไปด้วยสักประมาณ 5 นาที แล้วพอกทิ้งไว้ 10 นาที จึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สูตรนี้ใช้ได้ทุก 4-5 วัน หรือทุกสัปดาห์ ผิวหน้าจะขาวผ่องและนุ่มนวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สูตรลดฝ้า-ขจัดกระ

เตรียม
สับปะรด 1 จานเล็ก

วิธีทำ
หั่นสับปะรดเป็นชิ้นๆ ให้ได้ 1 จานรองถ้วยกาแฟ แล้วใช้ส้อมยีๆ ให้เนื้อสับปะรดเละๆ
ล้างหน้า เช็ดหน้าพอหมาดๆ แล้วทาสับปะรดให้ทั่วผิวหน้าเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ใช้ปลายนิ้วนวดๆ คลึงๆ ไปด้วย พอกทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
ใช้สูตรนี้ได้ทุก 3-4 วัน ถ้าต้องการขจัดกระหรือฝ้าบนใบหน้า สูตรนี้ช่วยให้หน้าหายมันเยิ้ม สับปะรดจะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างขึ้น ขาวขึ้น กระจะจางลง แต่ถ้าผิวหน้าค่อนข้างแห้งก็ควรใช้สูตรนี้แค่สัปดาห์ละครั้ง

สูตรผิวหน้าอ่อนนุ่ม

เตรียม
แครอต 1 หัว

วิธีทำ
ล้างแครอตให้สะอาด ใช้ส้อมขูดๆ เอาเปลือกออกเล็กน้อยให้ยังคงเหลือเปลือกอยู่บ้าง อย่าขูดออกหมด
นำแครอตไปต้มพอสุก แล้วนำมาปั่นให้ละเอียดเนียนเป็นเนื้อครีม (ถ้าไม่มีเครื่องปั่นก็ใช้มีดคมๆ ซอยเป็นแว่นบางๆ แล้วใช้ช้อนบดๆก็ได้)
ล้างหน้าให้สะอาด ทาครีมแครอตบริสุทธิ์ให้ทั่วผิวหน้าเว้นรอบดวงตา และริมฝีปาก
ขณะทาให้ใช้ปลายนิ้วนวดๆ คลึงๆ ผิวหน้าด้วย พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ล้างหน้าออกด้วยน้ำเปล่า ไม่ต้องใช้สบู่ แต่ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ น้ำ
สูตรนี้ทำทุกสัปดาห์ผิวจะอ่อนนุ่มและดูไร้ริ้วรอย อ่อนเยาว์เหมือนผิวหน้าเด็กตลอดกาล

สูตรหน้าขาวไม่มันเยิ้ม

เตรียม
มะขามเปียก 2 ปั้น

วิธีทำ
ล้างมะขามเปียกให้สะอาด แล้วนำมาคั้นกับน้ำอุ่น คั้นให้ได้น้ำมะขามข้นๆ แล้วใช้ผ้าขาวบางกรองน้ำมะขามใส่ถ้วยนำไปแช่เย็นไว้สักครู่
ล้างหน้าให้สะอาด ใช้สำลีชุบน้ำมะขามเปียกชโลมให้ทั่วใบหน้าแล้วใช้ปลายนิ้วกดๆ นวดๆ คลึงๆ เพื่อช่วยให้น้ำมะขามซึมซาบเข้าสู่ผิวหน้าได้ดี
ทาหน้าด้วยน้ำมะขามเปียกนานสัก 5 นาที แล้วปล่อยหน้าทิ้งไว้อีก 5 นาที จึงค่อยล้างหน้าออกด้วยน้ำเปล่า
สูตรนี้เหมาะกับคนหน้ามันเยิ้มง่าย และผู้ที่อยากมีผิวกระจ่างใส ใช้สูตรนี้ได้ทุก 3 วัน เพื่อให้ผิวได้รับวิตามินซีจากแหล่งธรรมชาติโดยตรง

สูตรหน้าเนียนใสไร้สิว

เตรียม
แตงกวา 1 ผล
ว่านหางจระเข้ 2 ชิ้น
มะนาว 2 ซีก

วิธีทำ
ล้างแตงกวาให้สะอาด สับๆ ซอยๆ ให้เลาะๆ หรือใส่เครื่องปั่นหยาบๆ ทั้งเปลือก
ล้างว่านหางจระเข้ เฉือนเอาแต่วุ้นสัก 2 ช้อนตะ ปั่นหรือยีๆ ตีๆ ผสมกับแตงกวา บีบมะนาวใส่ 2 ซีก หรือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
นำมาพอกทาทั่วใบหน้า เว้นริมฝีปากและรอบดวงตา ทิ้งไว้ 10 นาที จึงล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า
ทำทุกสัปดาห์หน้าจะกระจ่างขาวใส หมดปัญหาเรื่องสิว

สูตรบำรุงผิวด้วยวิธีธรรมชาติ

สูตรหน้าเด้งเปล่งปลั่ง

เตรียม
โยเกิร์ต 1 ถ้วย
อัลมอนด์ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
เลือกใช้โยเกิร์ตบริสุทธิ์ที่ไม่ผสมผลไม้หรือธัญพืชใดๆ
อัลมอนด์เลือกซื้อตามร้านขนม หรือซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อย่าเลือกชนิดที่ผสมเกลือ
ปั่นโยเกิร์ตกับอัลมอนด์รวมกัน อย่าให้ละเอียดจนเนียนนัก ปั่นให้เมล็ดอัลมอนด์ยังมีความหยาบอยู่เล็กน้อย
ถ้าไม่มีเครื่องปั่น ให้ตำๆ โขลกๆ อัลมอนด์หยาบๆ หรือ เกือบละเอียดแล้วนำไปผสมกับโยเกิร์ต (แบ่งเก็บไว้ใช้ได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์)
ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าหมาดๆ ใช้ครีมโยเกิร์ตขัดหน้าเบาๆ ให้ทั่วๆ เว้นรอบปากและดวงตา ใช้ปลายนิ้วคลึงๆ และขัดถูเบาๆ สัก 2 นาทีแล้วพอกหน้าทิ้งไว้อีก 5 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำเปล่า สูตรนี้ทำทุก 10 วันผิวหน้าจะชุ่มชื้น และแต่งตึงเปล่งปลั่งดังผิววัยอ่อนเยาว์

อาหารเพื่อผิวสวย หน้าใส

นอกจากการถนอมบำรุงผิวด้วยเคล็ดลับต่างๆ แล้ว ถ้า รู้จักเรื่องของสุขภาพความงามและโภชนาการด้วยก็จะเป็นการดี เพราะมีอาหารหลายชนิดรวมทั้งพืชผักผลไม้ที่เป็นแหล่งวิตามินและธาตุดีๆ ที่ล้วนมีบทบาทโดยตรงที่จะช่วยดูแลและถนอมผิวให้สวยใสได้เป็นอย่างดี

* ถั่วเหลือง
มีโปรตีนในถั่วเหลืองมากกว่าเนื้อสัตว์ถึง 15 เท่า เราสามารถกินถั่วเหลืองได้ประจำ เพราะแคลอรี่ต่ำ กินแล้วไม่อ้วน แถมยังจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ถั่งเหลืองไม่มี
คอเลสเตอรอล กินแล้วผิวสวยเปล่งปลั่งเพราะมีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวด้วย

* มะเขือเทศ
กินมะเขือเทศสดๆ เป็นประจำผิวจะสวยดูมีสุขภาพดี เพราะมีสีชมพูระเรื่อยแบบผิวเด็ก มีเลือดฝาดดี มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ ซึ่งช่วยดุแลผิวให้เปล่งปลั่งชุ่มชื้นได้ คนที่ไม่ค่อยกินมะเขือเทศ ผิวจะดูหมองคล้ำ และมักจะเกิดริ้วรอยต่างๆ ได้ง่าย คนชอบมะเขือเทศยังไม่ต้องกังวลจะเป็นโรคมะเร็งได้ง่ายๆ อีกด้วย

* ส้ม
ส้มเขียวหวานเป็นผลไม้ที่หากินได้ง่าย และไม่แพงเลย ควรมีส้มไว้ติดบ้านและกินส้มเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายได้วิตามินซีพอเพียง ส้มจะทำให้ร่างกายสดชื่นเพราะเป็นผลไม้ที่มีน้ำฉ่ำ ส้มจะช่วยผลิตคอลลาเจลช่วยให้ผิวพรรณกระชับเต่งตึง และส้มยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วยกินส้มเป็นประจำจะได้ทั้งผิวสวยและสุขภาพดี ช่วยลดน้ำหนักได้ผลเร็วอีกต่างหาก

* ชาเขียว
นอกจากมีบทบาทเด่นในการบำรุงสุขภาพแล้ว ชาเขียวก็เด่นในเรื่องความสวยงามด้วยเช่นกัน เพราะการดื่มชาเขียวเป็นประจำ ผิวจะมีสุขภาพดีขึ้น ผิวจะปรับสภาพจนเกิดความสมดุล
ไม่มันเยิ้มง่าย และไม่แห้งง่าย ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงดีต่อความสดใสเปล่งปลั่งของผิวพรรณโดยตรง

* ปลาเล็กปลาน้อย
ควรกินปลาเล็กปลาน้อยเป็นประจำ เพราะมีไอโอดีน อยู่ในปลาเล็กปลาน้อยไม่น้อยเลย การขาดสารไอโอดีนมากๆ มีผลให้ผิวพรรณดูแห้งไม่ชุ่มชื้น ผิวหน้าก็จะลอกเป็นขุยง่ายๆ และไม่เรียบถ้ากินปลาเล็กปลาน้อยเป็นประจำผิวพรรณจะมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เคล็ดลับเบบี้เฟซ

การจะเป็นเจ้าของผิวหน้าที่ดูสดใสเหมือนผิวของเด็กๆ ได้นั้นไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยความจริง ผิวของคนที่มีอายุ 40 ปีก็สามารถนุ่มและเปล่งปลั่งเหมือนผิววัยแรกแย้มได้ถ้ามีการดูแลใส่ใจทะนุถนอมอย่างจริงจัง
นอกจากเคล็ดลับนับร้อยใน Website นี้แล้วปัจจัยเล็กๆ ที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูแลผิวพรรณทั้งใบหน้า และร่างกายมีดังต่อไปนี้

* หมั่นดูแลปกป้องผิวหลังจากสัมผัสแสงแดด และมลพิษแวดล้อม
* หมั่นนวดหน้า-นวดตัว และใช้ครีมบำรุงผิวสม่ำเสมอ
* เลือกสวมเสื้อผ้าที่นุ่มสบาย ไม่เลือกเนื้อผ้าที่ระคายเคืองต่อผิว
* ไม่ทำลายผิวด้วยการดื่มสุราไม่สูบบุหรี่จัด ไม่เครียด ไม่อดนอน ไม่อดอาหาร
* เลือกกินผัก ผลไม้สดที่มีวิตามินแร่ธาตุดีๆ เป็นอาหารผิว ดื่มน้ำมากๆ เพื่อบำรุงผิวให้สดชื่น
* ออกกำลังกายบ้างเพื่อให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นแข็งแรง ถ้าผิวดูขาวใสแต่เหลวไม่กระชับเต่งตึงก็เท่ากับว่ามีผิวที่ไม่ดีเช่นกัน

การดูแลรักษาสุขภาพของร่างกายโดยรวมก็เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะถ้าสุขภาพร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณมิว่าใบหน้าและร่างกายก็จะมีสุขภาพดีไปด้วย ผิวจะดีได้ก็ด้วยวิธีการดูแลด้วยวิถีแห่งธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ราคาแพงต่างๆ มิใช่คำตอบของการถนอมผิวให้อ่อนเยาว์ตลอดไปได้เสมอไป

ผิวดี เป็นอย่างไร?

ก่อนจะลองศึกษาเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าและผิวพรรณทั่วเรือนกาย เราควรจะดูก่อนว่าการมีผิวดีนั้นเป็นอย่างไร

ลักษณะของผิวที่ดีคือ
* มีความผุดผ่อง แม้จะเป็นคนผิวคล้ำ แต่ผิวก็ดูผุดผ่องไม่ดูหม่นหมอง หรือซีดเซียว
* ผิวมีความยืดหยุ่น นุ่มนวลเปล่งปลั่ง หรือที่เรียกว่าผิวเด้งนั่นเอง ผิวที่ดีต้องไม่เหลวหรืออ่อนนิ่มเกินไป
* ผิวมีสีระเรื่อเพราะเลือดฝาดดี ไม่ซีดจนไร้สีสัน หรือ เป็นสีคล้ำแบบด้านๆ
* ผิวมีความชุมชื้น มันเงา เพราะมีน้ำมันหล่อเลี้ยงอย่างสมดุล ไม่แห้งจนดูกร้าน
* มีความละเอียด ไม่หยาบ ไม่มีริ้วรอยต่างๆ
* มีความเกลี้ยงเกลา เนียนเรียบ ไม่ขรุขระเพราะมีความหยาบในเนื้อผิว
* มีความนุ่มนวล สดใส ไม่มีกระฝ้า-จุด ด่างดำ ไม่ดูหม่นหมอง

เหล่านี้เป็นองค์ประกอบหลักๆ ของผิวพรรณที่ดีซึ่งเราทุกคนสามารถสร้างสรรค์ฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยเคล็ดลับต่างๆ ที่เสนอไว้ในเล่มนี้ สิ่งสำคัญคือความเอาในใส่กับผิวพรรณของตัวเราเองอย่างแท้จริงเท่านั้น